เดอะมัมมี่ เมื่อเจ้าฟ้าหญิงจากสมัยอียิปต์โบราณ “อามาเนต”
เดอะมัมมี่ ที่ถูกทำให้แปลงเป็นมัมมี่ รวมทั้งถูกฝังไว้กึ่งกลางทะเลทรายเมื่อหลายพันปี จนตราบเท่ามีการค้นหาเจอหีบศพหินโบราณของคุณ โดยการนำกลุ่มของ “นิค มอร์ตั้น” นักโบราณคดีคนอเมริกัน แม้กระนั้นในระหว่างการลำเลียง ก็เกิดเหตุขึ้น เมื่ออามาเนตถูกปลุกให้ตื่นด้วยเหตุผลบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวกับตัวของนิค เมื่อคุณตื่น ความพินาศก็เลยเกิดขึ้นกับภาควิชาขน เรือบินถูกทำลาย แล้วก็นิคที่คงจะตายไปแล้วหลังจากนั้นก็ฟื้นขึ้น กับประสาทสัมผัสที่ว่องอย่างกับยอดมนุษย์
นิค แล้วก็ เจ้าฟ้าหญิงอามาเนต เกี่ยวข้องกันยังไง และก็เขาจะหยุดความแค้นของมัมมี่สาว ที่กำลังก่อกวนไปทั่วได้ไหมThe Mummyเป็น 1999 อเมริกันทำการเผชิญภัยภาพยนตร์ที่เขียนบทรวมทั้งกำกับการแสดงโดยสตีเฟ่นซอมเมอร์ มันเป็น remakeของภาพยนตร์เรื่อง 1932 ที่มีชื่อเดียวกันกับดาวเบรนดินแดนเฟรเซอร์ , Rachel Weisz ,
จอห์นฮันที่นาห์และก็เควินเจโอคอนเนอร์รวมทั้งอาร์โนล Voslooในประเด็นหน้าที่เป็นแม่เจ็บปวดทรมาน ภาพยนตร์หัวข้อนี้ติดตามนักผจญภัย Rick O’Connell เมื่อเขาเดินทางไป Hamunaptra เมืองที่ความตาย พร้อมทั้งบรรณารักษ์รวมทั้งพี่ชายของคุณ เดอะมัมมี่ ที่ซึ่งพวกเขาได้ปลุก Imhotepขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจมหาปุโรหิตที่ถูกแช่งชักหักกระดูกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ
การพัฒนาภาพยนตร์ประเด็นนี้ใช้เวลานับเป็นเวลาหลายปี โดยมีบทภาพยนตร์และก็ผู้กำกับผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยติดมาด้วย ในปีพุทธศักราช 2540 สตีเฟน ซอมเมอร์สไปถึงเป้าหมายสำหรับในการพรีเซ็นท์รายละเอียดต้นฉบับในแบบอย่างการเสี่ยงภัยแล้วก็โรแมนติกมากเพิ่มขึ้น
การถ่ายรูปหลักเกิดขึ้นที่โมร็อกโกรวมทั้งสหราชอาณาจักร ลูกเรือจำเป็นต้องทนกับสภาวะขาดน้ำ ลมพายุทราย แล้วก็งูที่ถูกยิงในทะเลทรายซาฮาราIndustrial Light & Magicให้เอฟเฟกต์ภาพเยอะแยะ ผสมฟุตเทจไลฟ์แอ็กชันและก็ภาพที่ผลิตขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างตัวประหลาดที่มีชื่อJerry Goldsmith เป็นผู้เสียสละคะแนนวงดนตรี
มัมมี่เข้าฉายในโรงหนังช่วงวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2542 แม้ว่าจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ที่นานัปการจากนักวิพากษ์วิจารณ์ แม้กระนั้นก็บรรลุความสำเร็จในเชิงการค้าแล้วก็ทำรายได้กว่า 416.4 ล้านเหรียญทั้งโลกเทียบกับงบประมาณการสร้าง 80 ล้านเหรียญ การบรรลุผลของภาพยนตร์ประเด็นนี้นำไป
สู่ภาคต่อโดยตรงสองภาคเป็นThe Mummy Returns (2001) และก็
The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor (2008) นอกนั้นยังทำให้เกิดภาคแยกของซีรีย์อนิเมชั่นแล้วก็ภาคก่อน The Scorpion King (2002) ซึ่งสร้างภาคต่อของตนเอง ความพากเพียรที่จะรีบูตเงินทองและก็กระตุ้นแฟรนไชส์สื่อใหม่ทำให้เกิดภาพยนตร์ 2017
ในเมืองธีบส์ ประเทศอียิปต์ 1290 ปีกลายคริสตกาล อิมโฮเทปมหาปุโรหิตมีความเกี่ยวเนื่องกับอังก์-ซู-นามุน นายหญิงของฟาโรห์เซติที่ 1 อิมโฮเทปและก็อังก์-ซู-นามุนฆ่าฟาโรห์ภายหลังที่เขาศึกษาและทำการค้นพบความเกี่ยวข้องของทั้งสอง อิมโฮเทปหนีไป ตอนที่อังก์-ซู-นามุนฆ่าตัวตาย
โดยมั่นใจว่าอิมโฮเทปสามารถช่วยชีวิตคุณได้ Imhotep แล้วก็บรรพชิตของเขาลักขโมยศพของคุณและก็เดินทางไปยัง Hamunaptra เมืองที่ความตาย พิธีบูชาการฟื้น เดอะมัมมี่ คืนพระชนมพรรษาหยุดบอดี้การ์ดของ Seti ที่Medjai Imhotep ถูกฝังอยู่มีชีวิตอยู่กับการกินเนื้อด้วงแมลงปีกแข็งและก็ปิดผนึกในโลงที่เท้าของรูปปั้นของทวยเทพเทวดาอียิปต์ที่ป่าช้า Medjai สาบานว่าจะคุ้มครองป้องกันไม่ให้ Imhotep กลับมา
ในปี 1926 โจนาธาน คาร์ท้องนาฮานได้เสนอเอเวลินน้องสาวของเขาซึ่งเป็นบรรณารักษ์แล้วก็นักอียิปต์วิทยาผู้ใฝ่ฝันพร้อมกล่องและก็แผนที่ที่สลับซับซ้อนซึ่งทำให้เกิดฮามูนัปยี่ห้อ โจนาธานเปิดเผยให้มองเห็นเขาลักขโมยกล่องจากนักผจญภัยคนอเมริกันริกคอนเนลล์ผู้ค้นพบเมืองในช่วงเวลาที่ประเทศฝรั่งเศสต่างชาติเอเวลินและก็โจนาธานเจอริกรวมทั้งตกลงกับเขาเพื่อพาพวกเขาไปที่เมือง
ริกชี้แนะ Evelyn แล้วก็พรรคของคุณไปยังเมืองที่เจอหน้ากับวงดนตรีของนักล่าทรัพย์สมบัติอเมริกันนำโดยสนิทสนมตาขาวริกBeni Gabor แม้ว่าจะได้รับการเตือนให้ออกจากอ่าว Ardeth หัวหน้าของกรุ๊ป Medjai แต่ว่าภาควิชาตรวจทั้งคู่ยังคงค้นหาถัดไป
เอเวลินค้นหาหนังสืออมุนราซึ่งทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ bellybuttonringsandthings แทนที่จะหาหนังสือพบ คุณกลับเจอศพของอิมโฮเทป ในเวลาเดียวกัน คณะทำงานของคนประเทศอเมริกาก็ได้ศึกษาค้นพบBook of the Deadสีดำพร้อมทั้งขวดโหลที่ใส่อวัยวะที่เก็บรักษาไว้ของ Anck-su-namun
มัมมี่ (อังกฤษ: Mummy) เป็นศพที่ดองหรือแช่ลงไปภายในน้ำยาพิเศษในประเทศอียิปต์ พันทั่วอีกทั้งร่างกายด้วยผ้าลินินสีขาว เพื่อเป็นการรักษาภาวะของศพเพื่อคอยการกลับคืนร่างของวิญญาณคนตาย ตามความศรัทธาของชาวอียิปต์โบราณ คำว่า “มัมมี่” มาจากคำว่า “มัมมียะ”
(Mummiya) ซึ่งเป็นคำในภาษาอิหร่าน สื่อความหมายถึงร่างของศพที่ถูกดองจนกระทั่งแปลงเป็นสีดำ โดยชาวอียิปต์โบราณจะทำมัมมี่ของฟาโรห์และก็เชื้อพระวงศ์ทุกท่าน รวมทั้งนำไปฝังในลักษณะแนวยาวภายใต้พื้นแผ่นทรายของอียิปต์ อาศัยกระแสลมที่พัดผ่านในแถบทะเลทรายอาระเบียแล้วก็ทะเลทรายในพื้นที่รอบรอบๆของอียิปต์ เพื่อคุ้มครองป้องกันการเน่าของศพที่อาบด้วยน้ำยาบอสตอกธัน
Thumb image La doncella มัมมี่ (หญิงสาว) ดั้งเดิมที่ถูกเจอในประเทศประเทศอาร์เจนตินา ปี 1999
ในอียิปต์โบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตข้างหลังความตาย เกี่ยวกับการหวนคืนคืนร่างของวิญญาณ โดยมีความคิดว่าเมื่อวิญญาณออกมาจากร่างไปชั่วช้าช่วงเวลาหนึ่งจะหวนคืนสู่ร่างเดิมของผู้ที่เป็นเจ้าของ ก็เลยควรมีการรักษาและก็รักษาภาวะของร่างเดิม โดยการแช่รวมทั้งดองด้วยน้ำยาบีทูไม่น ซึ่งจะช่วยรักษาและก็คุ้มครองป้องกันไม่ให้ศพเน่าผุผังไปตามเวลาช่วงกลางคืนหนึ่ง
ในยุคอียิปต์โบราณนั้น ฟาโรห์พระผู้เป็นเจ้าเซติที่ 1 ได้เข้ามาพบเจอการขโมยลอบมีชู้ระหว่างสนมเอก อนัค ซู นามูน กับปุโรหิต อิมโฮเทป เดอะมัมมี่ จนถึงตระเตรียมสั่งประหาร ถ้าว่า อิมโฮเทป กับลงมือฆ่าฟาโรห์ซะก่อน แล้วก็หนีออกมาได้ เมื่อเขาตั้งมั่นจะกลับไปช่วยช่วยชีวิตแฟนสาวนั้น
ก็กลับโดนฆ่าแล้วก็ลงอาญาสูงสุดจากวิธีการทำให้เป็นมัมมี่ทั้งที่ยังไม่ตาย รวมทั้งลงคาถาเอาไว้ จนกว่ามาถึงปัจจุบัน บรรดานักขุดหลุมฝังศพนั้นต่างอุตสาหะบุกค้นหาทรัพย์สมบัติ และก็อยากทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ กลับทำผิดพลาดไปปลุกให้ อิมโฮเทป ฟื้นคืนชีพขึ้นมา พวกเขาก็เลยต้องหาทางถอนคำแช่งนี้ลงให้ได้
หนังหัวข้อนี้เหมาะสมกับคนไหนสำหรับ The Mummy ในเวอร์ชั่นปี 1999 นี้ คงจะเหมาะสมผู้ที่เป็นคนชอบดูหนังสายแอคชั่นแฟนตาซีมากยิ่งกว่า เพราะเหตุว่าหากว่า มัมมี่ จะเป็นอีกหนึ่งอสูรกายเชิญสยดสยองในจักรวาล Monsterverse แม้กระนั้นในฉบับนี้เป็นวิธีการทำออกมาในแบบอย่างแอคชั่น เสี่ยงอันตรายที่เกือบจะปราศจากความสยดสยองแม้แต่น้อย ด้วยเรทแค่เพียง PG-13 เพียงแค่นั้น ก็แน่ๆว่าพวกเราเกือบจะมิได้มอง
เห็นความร้ายแรงจากในหนังเลย แต่ว่ามันก็มีแอคชั่นที่บันเทิงใจเข้ามาตอบแทน แต่ว่าแม้ผู้ใดกันแน่ต้องการมองเห็นมัมมี่ฉบับสยดสยองบางทีอาจจำต้องละเลยไปก่อน ซึ่งผู้ใดที่ถูกใจหนังแอคชั่นเสี่ยงภัยแบบ Van Helsing, Underworld หรือ Blade เข้า Netflix แล้ว กับ The Mummy (2017) หนังมีความยาว 1ชั่วโมง50 นาที ได้ดารานำหลักเป็นทอม อาจารย์ซ และก็แอนท้องนาเบล วอลลิสมารับทนำ เกิดเรื่องราวแฟรนไชส์ที่ต่อกันช้านานตั้งแต่ The Mummy ปี 1999
ควบคุมโดย Alex Kurtzman ที่ภายหลังจากมองจบแล้วจะต้องร้องว้าวเลย นี้มันหนังคนวิกลจริต เพราะเหตุว่าสนุกสนานมากมายจริงๆเหมือนจริง และก็เยี่ยมมากๆลึกลับสุด น่าขนลุกสุด มันสุด สามารถรับดูได้แล้วทางช่อง Netflix หรือจะรับดูผ่าน่ทางกล่อง TrueID
หรือลงทะเบียนผ่านหนทาง TrueMoney Wallet ได้เลยค่ะนิค มอร์ตัน
เป็นทหารรับจ้างที่ลักขโมยของวัตถุโบราณตามสถานที่ต่างๆไปขายทอดตลาดอีกครั้งหนึ่ง ชีวิตของเขาชอบถูกตามล่าเป็นประจำจากผู้คนในตลาดมืด แต่ว่าบังเอิญ วันหนึ่งของที่เขาลักขโมยมา มีวิญญาณลึกลับอะไรบางอย่างติดตามมาด้วยซึ่งวิญญาณ
ที่ว่านี้ก็คือฟาโรห์ที่ถูกทำให้เปลี่ยนเป็นมัมมี่เพื่อเฝ้าทรัพย์สินประจำเชื้อสายของตนเองมาถึงก็เริ่มด้วยสาวนักเวทย์ปัญหาที่ตัวอักษรเต็มแขน เต็มข้างหลัง เต็มกำลัง เดอะมัมมี่ เหมือนกับคนโดนของเลย ก่อนที่จะตัดภาพมาที่ฉากแอ็กชันโคตรมัน เหมือนกับหนังเรื่อง The Impossible อีกทั้งฉากยิง ระเบิด วิ่งฝ่าระเบิด กระโจนผ่านตอนอาคาร จากหลังคาเกลือกไปอีกหลังคา แถมยังต้องตามหาแผนที่ที่หายไป
ที่แฟนของผู้แสดงนำชายเดินมาโวยวายกับผู้แสดงนำชายพี่ทอมคุณครูซของพวกเราอีกว่าลักขโมยแผนที่พวกเราไปเพราะอะไร แม้ว่าพี่ทอมอาจารย์ซบอกว่าเฮียมิได้ทำนะ แสงสีเสียงส่วนประกอบฉากโลเคชันเห็นว่าโคตรดีเลย อีกทั้งฉากโบราณสถานของอียิปต์ ความศักดิ์สิทธิ์ ความโบราณ ทะเลทราย และก็การสาดกระสุนรัวยิงแมงมุม โทนสีของหนังค่อนข้างจะหนักไปทางสีเหลืองออกน้ำตาลผสมหน่อยๆนะ เห็นว่าโคตรงามเลย ยื่งแสงอาทิตย์ส่องแบบการเล่าเรื่องในโลกเชิงสิ่งที่เป็นนามธรรมเป็นโคตรดี
แถมใบหน้าของผู้แสดงนำฝ่ายทั้งคู่คนทั้งยังทอม อาจารย์ซ และก็แอนทุ่งนาเบล วอลลิส ก็ทั้งยังหล่อทั้งยังงามด้วย เป็นดีอะดูๆไปก็แอบระลึกถึงซีรีส์จากมาร์เวลเรื่อง The Moon Knight เช่นกัน ที่ตัวนำเป็นคนเฝ้าพิพิธภัณฑสถานที่มีความรู้ความสามารถเรื่องของโบราณและก็เนิร์ดวัตถุโบราณพอควร
ดำรงชีวิตปรกติของตนเอง แต่ว่าจู่ๆก็จำอะไรมิได้ ฝันร้ายถึงเรื่องที่ตนเองมิได้ทำ ก่อนที่จะถูกตามล่าหมายสังหารจากฝูงคนแปลกๆที่ตนเองไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต รวมทั้งหนีจากภาพลวงตาหรือฝันร้ายที่รอตามติดมา แต่ว่าในหนังหัวข้อนี้กลายเป็นวิญญาณมัมมี่ที่เฝ้ากริช เพชร หรือเพชรนิลจินดาที่กลุ่มของดารานำชายถือมาแทน sound effect ผีดีแล้วอะ ทำนองดนตรีตื่นเต้นที่ใส่เข้ามาก็ตรงกับจังหวะในหนังเว่อร โทนสีของหนังก็ทำเป็นดีเลย ไม่ว่าจะเป็นแสงสีฟ้าแทนความรู้สึกลึกลับสงสัยสงสัย
ฉากไฟสีแดงแทนความรู้สึกรุ่มร้อน ต่อสู้ เอาชนะ แอ็กชัน ดุเดือดเลือดพล่าน
เอาจริงเอาจังๆซึ่งมันสุดทุกอารมณ์กระทั่งเสมือนหนังคนวิปลาสอะก็นับได้วาเป็นหนังแฟนตาซีแอ็กชันตื่นเต้นอีกประเด็นที่มันรวมทั้งสนุกสนานใช้ได้เลยคะ กับฉากบู๊ บุ๊น วิ่งหนี ระเบิด
เอาชีวิตรอดในรถยนต์ตีลังกา หนีจากคนน้อยเกินไปยังจำต้องมาหนีจากผีมัมมี่อีก CG แล้วก็ Acting การแสดงของผู้ที่มารับบบทเป็นผีหรือผีที่เฝ้าวัตถุโบราณมายาวนานมองว่าทำออกมาได้ดิบได้ดีและก็น่าสยองพอเหมาะพอควรเลย บอกตรงๆนี้มันเสมือนหนังมาร์เวลเลย ที่ดารานำชายเก่งแล้วก็แข็งแถมเอาชีวิตรอดก้าวหน้าขนาดนี้
หน่วยชิล์ดอาจจำเป็นต้องโทรเรียกตัวนอกเวลา เดอะมัมมี่ งานมาช่วยงานในระหว่างที่กลุ่ม The Avengers ดำเนินการอยู่นอกอวกาศกับกัปตันมาร์เวลหรือกลุ่ม Guardian of GalaxyThe Mummy เป็นโปรเจกต์ที่ถูกเริ่มโดย James Jacks แล้วก็ Sean Daniel สองโปรดิวเซอร์ที่ต้องการนำภาพยนตร์สยองขวัญสุดคลาสสิกอย่าง The Mummy (1932) หนึ่งในผลงานจากแฟรนไชส์
Universal Classic Monsters ของค่าย Universal Pictures ที่แสดงนำโดย Boris Karloff มาปัดฝุ่นใหม่ให้มีความร่วมยุคเยอะขึ้น แม้กระนั้นทางค่าย Universal Pictures อยากที่จะให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำ ก็เลยมอบทุนสร้างให้กับสองโปรดิวเซอร์เพียงแต่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพียงแค่นั้น
ไม่เพียงแค่นั้น James Jacks แล้วก็ Sean Daniel ยังจะต้องประสบพบปัญหาในตอน Pre-Production ที่มีการเปลี่ยนแปลงมือเขียนบทรวมทั้งผู้กำกับอยู่หลายคราว เริ่มตั้งแต่การเลือกให้ George A. Romero ผู้กำกับสายสยองขวัญจาก Dawn of the Dead (1979)
มารับหน้าที่ควบคุมและก็เขียนบทร่วมกับ Abbie Bernstein ซึ่งบทร่างแรกของ Abbie Bernstein เล่าราวของนักวิทยาศาสตร์ที่ปลุกให้มัมมี่กลับขึ้นมามีชีวิตอีกรอบ รวมทั้งอยากได้ทำลายทุกชีวิตบนโลกด้วยเครื่องใช้ไม้สอยโบราณ แต่ว่าในตอนท้าย George A. Romero รวมทั้ง Abbie Bernstein ก็ถอนตัวจากโปรเจกต์นี้
หรือ Clive Barker นักประพันธ์นวนิยายแล้วก็ผู้กำกับจาก Hellraiser (1984)
ที่ถูกทาบทามให้มานั่งแท่นผู้กำกับ รวมทั้งได้ Mick Garris จาก Critters 2: The Main Course (1988) มารับหน้าที่เขียนบท ซึ่งบทของ The Mummy เวอร์ชันนี้จะมีความมืดดำ ร้ายแรง รวมทั้งเวทมนตร์คาถามากยิ่งกว่าต้นฉบับ แม้กระนั้นตอนท้ายค่าย Universal Pictures กลับไม่ซื้อแนวความคิดดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว รวมทั้งจำเป็นต้องเลือกสรรผู้กำกับและก็มือเขียนบทกันใหม่อีกรอบ
หลังจากการเปลี่ยนแปลงมือเขียนบท ผู้กำกับ แล้วก็บทภาพยนตร์ อยู่นานร่วม 10 ปี สุดท้าย James Jacks แล้วก็ Sean Daniel ก็ได้โคจรมาเจอกับ Stephen Sommers ผู้กำกับที่พึ่งจบงานจากภาพยนตร์ Deep Rising (1998) มาได้ไม่นานนัก ทั้งยัง Stephen Sommers ยังเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่อง The Mummy ฉบับปี 1932 อีกด้วย
โดยไอเดียของ Stephen Sommers เขาต้องการสร้างให้ The Mummy ได้ผลสำเร็จงานที่มีกลิ่นของภาพยนตร์เผชิญภัยอย่าง Indiana Jones และก็ Jason and the Argonauts (1963) มากยิ่งกว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญตามเดิม โดยมีมัมมี่เป็นคนร้ายที่มีความรวดเร็วรวมทั้งน่าสยดสยอง เพื่อนักแสดงหลักที่มีติดอยู่แรกเตอร์แบบวีรบุรุษจำต้องพบเจอ